นีมเพาว์เวอร์ ธุรกิจมหัศจรรย์จากงานวิจัย
ปัจจุบัน ยังมีงานวิจัยอีกจำนวนมาก ที่ผ่านการศึกษาค้นคว้า มาอย่างดีแล้ว แต่ต้องถูกไปแขวนไว้บนหิ้ง เนื่องจากยังไม่เจอคู่แท้ ทางธุรกิจที่จะนำไปต่อยอดติดดอกออกผล แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับงานวิจัยว่าด้วยเรื่องพืช มหัศจรรย์ “สะเดา” กับโรงงานต้นแบบผลิตสารสกัดสะเดา เชิงธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่ ดร.อัญชลี สงวนพงษ์ วิจัยเกี่ยวกับสารสกัดสะเดา และได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นประจำปี 2552 จากประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากมีนักธุรกิจที่เห็นคุณค่า ของประโยชน์ที่จะได้รับจากสารสกัดจากสะเดา มากกว่าผลตอบแทนทางธุรกิจ วสันต์ มงคลลาภกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วสันต์โปรดักส์ จำกัด ผู้ซื้อโนว์ฮาวโรง งานต้นแบบผลิตสารสกัดสะเดาเชิงธุรกิจ มาต่อยอดเป็นธุรกิจว่า สาเหตุที่เข้ามาสู่ธุรกิจผลิตสารสกัดจากสะเดา เพื่อใช้ในการปราบศัตรูพืชนั้น มีพื้นฐานความคิดจากความต้องการที่อยากทำอะไรเพื่อสังคม ที่ไม่ใช่แต่การแจกหรือบริจาค

ทำไมต้องสะเดา ?
สะเดา ถือเป็นพืชมหัศจรรย์ เนื่องจากตั้งแต่ใบ ดอก ลำต้นของสะเดา มีคุณประโยชน์ทั้งหมด คือ ถ้าไม่เป็นอาหารก็เป็นยา นอกจากนี้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่บอกเล่ากันก็คือ สะเดา สามารถใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้ด้วย โดยเฉพาะแมลงที่กินพืช ทั้งนี้เนื่องจากในสะเดานั้น มีสารกลุ่ม อะซาไดแรกติน (Azadirachtin) ซึ่งเป็นสารพวกไตรเทอร์ฟีนอยด์ และมีลักษณะโครงสร้างทางเคมีเหมือนแอ็คไดโซนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการลอกคราบของแมลง โดยสารสกัดจะมี ผลออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบต่อมไร้ท่อ หรือระบบฮอร์โมนของแมลง รวมทั้ง ยับยั้งการกินอาหารของแมลง ซึ่งเมื่อใช้สารสกัดนี้ผสมกับน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสม และนำไปฉีดที่พืชผักต้นข้าว ไม้ผลนานาชนิด ก็จะช่วยในการขับไล่แมลงได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันการบริโภคของมนุษย์จะต้องผจญกับปัญหาสารตกค้างที่เป็นเคมีที่ ก่อให้เกิดผลข้างเคียงสูงมาก แต่ถ้าใช้สารสกัดจากสะเดาเพื่อการฆ่าแมลงจะปลอดภัยมาก ทั้งหมดจึงเป็นที่มาที่ทำให้เกิดโรงงานเพื่อการผลิตสารสกัดจากสะเดา ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.สระบุรี โดยวัตถุดิบจะใช้เม็ดสะเดาเป็นหลัก โดยการรับซื้อจากชาวบ้าน ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร

วสันต์โปรดักส์และเกษตรกร
วัตถุดิบที่เรารับซื้อมาจากชาวบ้าน จะมาผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน เพื่อการเก็บรักษาเม็ดสะเดาให้มีสภาพดีที่เมื่อนำมาสกัดจะได้สารสกัดเยอะ ๆ จากนั้นก็จะขายออกสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์ “นีม เพาเวอร์” ขณะเดียวกันบริษัทได้ซื้อที่เพิ่มที่ จ.นครราชสีมา เพื่อทำเป็นแปลงสาธิต โดยมีการลงต้นสะเดา เพื่อระยะยาวจะได้นำเม็ดมาใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลง รวมถึงขุดเป็นแปลง เพื่อลงพืชผักนานาชนิด เพื่อปลูกเป็นพืชผักออร์แกนิก เพื่อไว้ใช้เป็นโมเดลในการแนะนำให้เกษตรกร ชาวสวนต่าง ๆ ได้เห็นถึงคุณประโยชน์ของสารสกัดจากสะเดาโดยตรง โรงงานผลิตนีม เพาเวอร์ สารสกัดจากสะเดา ได้รับการสนับสนุนตามโครงการนวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ย จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติเป็นวงเงินกว่า 20 ล้านบาท แต่เงินที่ใช้ลงทุนจริง ๆ มากกว่านั้น โดยใช้ในการลงทุนเครื่องจักรและแปลงสาธิต แต่มั่นใจว่า สารสกัดจากสะเดานั้นมีประโยชน์และตรงกับแนวโน้มความต้องการทั้งคนไทยและต่าง ชาติ ทั้งในเรื่องอาหารปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงมั่นใจว่า หลังจากที่โรงงานได้เดินเครื่องผลิตนีม เพาเวอร์ และลอนช์ออกสู่ตลาดจะต้องได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะนีม เพาเวอร์ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เป็นสารสกัดสะเดากำจัดแมลง ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม